วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เปรียบเทียบที่สุดแห่ง SmartPhone ปี 2013

ปี 2013 แต่ละแบรนด์ต่างส่ง Smartphone มาตีตลาดกันอย่างดุเดือด ทำให้บางคนต้องพกมือถือไม่ต่ำกว่า หนึ่งหรือสองเครื่องเลยทีเดียว (แหม ก็มันตัดสินใจไม่ได้นี่ กลัวรักพี่เสียดายน้อง) แน่นอนว่าคู่แข่งของ iPhone นั้นมีมากมาย แต่ละแบรนด์ต่างมีจุดเด่นของตัวเองที่ต่างกัน เรามาดูการเปรียบเทียบที่สุดของ Smartphone ปี 2013 กัน





ขนาดของเครื่อง

หากมองในเรื่องของขนาดแล้ว iPhone 5 จะดูอ่อนแอที่สุดเลยในนี้ เนื่องจากขนาดที่เล็ก และแลดูบอบบาง หากเทียบกับอุปกรณ์ทั้งหมดในนี้ และขนาดที่ตามๆมาได้แก่ Blackberry Z10 แต่แบรนด์ส่วนมากก็จอเทียบเคียงหรือเกิน 5 นิ้วไปแล้ว อย่าง Galaxy Note 2 หรือ Optimus Pro พวกนี้อยู่ตรงกลางระหว่าง Smartphone และ Tablet จนเมืองนอกต่างเรียกพวกนี้ว่า Phablet ไปแล้วครับ (ฟาเบลต? ออกเสียงยากนะครับนั่น)



วัสดุ

กระจก แก้ว พลาสติก? วัสดุแต่ละแบบก็จะให้ ความรู้สึก ที่แตกต่างกันออกไป ความรู้สึกแรกเลยคือเรื่องของสัมผัสมือนะครับ พลาสติกจะให้ความรู้สึกที่เบา ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเครื่องในด้วยเช่นกัน ส่วนอะลูมิเนียมอย่าง iPhone 5 ก็จะให้ความรู้สึก เนียน แข็ง หรู (ส่วนตัวมีความรู้สึกประมาณนั้นครับ ฮ่าๆๆ) แต่ถ้ากระจกจะให้ความรู้หนัก และหนักแน่นครับ อย่าง Xperia Z อันนี้ให้ความรู้สึกบึกบึนมากครับ แต่ตกแล้วแตกรึเปล่านี่อีกเรื่องนะครับ


น้ำหนัก

จากภาพนี่ เห็นชัดเลยว่า iPhone 5 เบาที่สุด จนหลายๆ คนยังคิดว่ามันเบาเกินไปรึเปล่า? จนมีการแซวเกิดขึ้นว่า ถ้าหากต้องการของที่ใส่กระเป๋าเหมือนไม่ใส่ ลอง iPhone 5 สิ อืมนะ อย่างเค้าว่าเลยครับ ส่วนน้ำหนักไหนพอดีกับใคร งานนี้ต้องลองจับลองถือเองแล้วล่ะ



จอแสดงผล

พูดถึงเรื่องจอแสดงผล สายตาคนเราสามารถมอง ณ จุดสุดๆที่ประมาณ Retina Display ของ iPhone 5 เท่านั้นเองครับ รายละเอียดระหว่าง 326 ppi กับ 430 ppi เราแทบจะมองไม่เห็นความแตกต่างแล้ว แต่ถ้าหากใครชอบจอระดับ Full HD เท่าทีวีบ้านก็ต้อง HTC One เลยล่ะครับ แต่อย่าง Note 2 ที่มีความละเอียด 267 ppi ก็ไม่ได้ดูแย่เลยนะครับ



ชิปประมวลผล

ในทั้งหมดนี้ มีเพียง iPhone 5 และ Z10 เท่านั้นที่ยังใช้ชิปประมวลผล Dual-Core เท่านั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟท์แวร์สามารถทำงานร่วมกันได้ดีขนาดไหนครับ อย่าง iPhone 5 ที่แอปเปิลคัดสรรฮาร์ดแวร์ให้เข้ากับซอฟท์แวร์เป็นอย่างดีก็ยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ Quad-Core เพราะตัว iOS เองก็ลื่นเป็นปกติอยู่แล้ว


RAM

ถ้ามองในภาพแล้ว จะมีเลข 1 แวบๆมาตัวเดียวเลยนั่นก็คือของ iPhone 5 แต่ 1GB ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลครับ มันถือว่าพอดีแล้วในตอนนี้ด้วยซ้ำ อย่างที่ได้กล่าวไว้ในส่วนของระบบประมวลผลว่าแอปเปิลคัดสรรฮาร์ดแวร์ที่เข้ากับซอฟท์แวร์มาอย่างดี ถึงแม้แรมจะน้อยเพียง 1GB ก็ยังทำงานได้อย่างราบรื่นมากๆ ครับ



ความจุ

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชอบอะไรที่มันไฮเอนด์อย่าง หนัง Full HD หรือพวกแอปอย่าง Infinity Blade II หรือแม้กระทั่งการถ่ายภาพที่ได้ความละเอียดสูง หรือคลิปวิดีโอยาวๆ อัดเก็บไว้ดูเช่นกัน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่อาจะทำให้ใครหลายๆ คนต้องปล่อยเครื่องเก่าที่มีความจุไม่พออย่าง iPhone 16 GB ที่มีความจุที่เป็นค่าคงตัว ไม่สามารถเพิ่มความจุภายนอกได้อย่าง MicroSD ถ้าไม่พอใช้งานจริงๆก็ต้องปล่อยออกไป (ซื้อเครื่อง 32GB ขาดทุนแน่นอน) ในที่นี้เครื่องที่สามารถใส่ MicroSD เพิ่มได้จะค่อนข้างได้เปรียบเลยทีเดียวครับ



กล้อง

เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนเลือกซื้อนะครับ กล้องดี คนถูกถ่ายก็แฮปปี้ เดี๋ยวนี้กล้องมือถือแทบจะมาแทนกล้องคอมแพคอย่างเต็มตัวแล้ว ยิ่งกลุ่มวัยรุ่นแทบจะไม่เห็นมีใครพกคอมแพคเลยจริงๆครับ (ไม่งั้นก็กระโดดไป DSRL กันเลยทีเดียว)
สำหรับกล้องหลายรุ่นที่ให้รายละเอียดของภาพที่สูงถึง 13 ล้านพิกเซล ณ จุดนี้ iPhone เทียบไม่ติด (แต่ iPhone เค้าขายเรื่องการใช้งานที่ง่ายล่ะนะครับ) แต่ถ้าพูดถึงกล้องที่ให้ภาพ แต่พิกเซลเยอะ ไม่ใช่เพียงคำตอบเดียว เพราะลองเทียบดูภาพหลังถ่ายอีกครั้งครับ มันต้องดูที่เลนส์ด้วย
ตัวอย่างกล้องคอมแพ็ค 10 MP แต่ภาพที่ได้ออกมานั้นไม่สู้กล้อง DSLR ที่ความละเอียด 5MP แม้แต่น้อยเลย สิ่งที่อยากจะสื่อคือ MP ไม่ได้บอกเสมอว่าภาพที่ออกมานั้นจะดีกว่าเสมอไป



แบตเตอรี่

อีกหนึ่งความกังวลของผู้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างปกติเลย แต่ไม่ต้องห่วงครับ จากผลสำรวจปกติสมาร์ทโฟนเหล่านี้จะมีอายุการใช้งานราวๆ 1 วันอยู่แล้ว เพราะความเข้ากันของทั้ง ซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ สเปกต่างๆที่ผู้ผลิตได้ออกแบบมาครับ 



ระบบสัญญาณไร้สาย

LTE ระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายบนมือถือที่เร็วที่สุดในขณะนี้ สมาร์ทโฟนระดับท็อปของทุกแบรนด์แทบจะรองรับหมดแล้ว แต่ยกเว้น Nexus 4 เท่านั้นล่ะครับ ที่ยังไม่รองรับ LTE สักที



ซอฟท์แวร์

อีกหนึ่งข้อติดใจในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนไม่ว่าใครก็ตาม หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ใช้ iOS ก็จะทราบดีอยู่แล้วว่าเราสามารถตามอัพ iOS ได้เรื่อยๆที่แอปเปิลปล่อยออกมาให้ใช้งานจนกว่าแอปเปิลจะปิดสำหรับอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งไป
สำหรับ Android ก็ต้องเลือกที่่ยี่ห้อกันแล้ว เพราะแต่ละแบรนด์จะให้ฟีเจอร์ที่ต่างกันออกไป ยกเว้น Nexus จาก Google ที่ใช้ Pure Android ครับ ผู้ใช้ Nexus ก็จะสามารถอัพได้เมื่อ Google ปล่อยเวอร์ชั่นใหม่ออกมาครับ


ลิงค์ต่างๆ

โรงเรียนบางลี่วิทยา
www.google.co.th
www.sanook.com
www.kapook.com
www.youtube.com

                                                                 

                  ข่าวสารเทคโนโลยีแห่งอนาคต